โรคมะเร็ง เป็นโรคของเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายเป็นก้อนหรือเป็นตุ่มที่โตขึ้นผิดปกติเรียกว่า ”เนื้องอก” ซึ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วกลายเป็นก้อน มะเร็ง สามารถทำลายเนื้อเยื่อใกล้เคียงและแพร่กระจายไปอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายได้ เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนแต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหรือแนวโน้มทำให้เกิดโรคมะเร็งได้แก่ อาหาร สารเคมี ฮอร์โมน พันธุกรรม การติดเชื้อเรื้อรัง ภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ
1. อาหารสำเร็จรูป
ยิ่งทุกวันนี้ความเร่งรีบทำให้หลายๆ คนต้องใช้ชีวิตอย่างรีบร้อน แม้แต่อาหารก็ต้องรับประทานแบบ “สำเร็จรูป” โดยไม่รู้เลยว่าสารอาหารเหล่านั้นต้องพึ่งพาสารกันบูด เพื่อให้อาหารมีอายุยาวนาน และบางครั้งอาจเป็นอาหารที่ต้องใช้โซเดียมสูง เป็นสารอาหารที่ไม่มีประโยชน์กับร่างกายเท่าที่ควร ยิ่งรับประทานบ่อยๆ ก็ยิ่งสะสม และนำมาซึ่งสารเคมีในร่างกายมากมายที่กลายเป็น มะเร็ง ได้ในที่สุด

2. อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารทอด หรือมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ
ของทอดกรอบๆ มันๆ ทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว มักซื้อติดมือไปวางข้างคอมพิวเตอร์เป็นเพื่อนทำงานยามบ่าย แต่เพื่อนยากถุงนั้นอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ จากการใช้น้ำมันทอดในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้ง ทำเกิดสารโพลีไซคลิก อโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons- PAH) ซึ่งเป็นสารก่อ มะเร็ง
หากรับประทานบ่อยก็จะสะสมอยู่ในร่างกาย พึงเตือนตัวเองเสมอว่าอาหารทอดทำให้ร่างกายสะสมไขมันกลายเป็นความอ้วน และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ควรรับประทานแต่น้อยหรือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด หากอดใจไม่ได้ให้เลือกซื้อร้านที่เปลี่ยนน้ำมันทอดทุกๆ วัน

3. น้ำอัดลม
น้ำอัดลมประกอบไปด้วยน้ำ ก๊าซคาร์บอนิก และน้ำตาลจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคอ้วน โดยโรคอ้วนจะทำให้ผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นสารกระตุ้นให้เซลล์เนื้อเยื่อเต้านมแบ่งตัวเพิ่มขึ้น จนเจริญเติบโตผิดปกติ และหากร่างกายไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตที่ผิดปกตินั้นได้ เซลล์เหล่านั้นก็อาจจะกลายเป็นมะเร็ง ดังนั้นการดื่มน้ำอัดลมมาก ๆ จึงเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้

4. น้ำตาล แป้งขัดขาวและขนมปังขัดขาว
อาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล แป้งขัดขาว หรือขนมปังขัดขาว แทบไม่มีวิตามินแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลงเหลือให้ร่างกายเท่าไรเลยค่ะ เพราะจะเหลือก็เพียงแค่น้ำตาลกับคาร์โบไฮเดรต ซึ่งถ้าทานมาก ๆ นอกจากความอ้วนจะถามหาแล้ว ยังเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอีกต่างหาก เพราะคาร์โบไฮเดรตขัดขาวกลุ่มนี้จะเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำตาลกลูโคสได้เร็วมาก ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันเก็บสะสมในร่างกาย
ตามมาด้วยความเสี่ยงโรคมะเร็งตับอ่อนที่จะเพิ่มสูงขึ้น เพราะเมื่อไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น ตับอ่อนก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างน้ำดีไปย่อยไขมัน อีกทั้งอาหารหวาน ๆ และแป้งขัดขาวยังจัดเป็นอาหารชั้นดีของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นถ้าทานอาหารกลุ่มนี้มาก ๆ ก็เท่ากับเรากำลังเลี้ยงมะเร็งให้เติบโตอยู่ในร่างกายเลยนะ

5.เนื้อแดง
เนื้อแดงส่วนใหญ่จะผ่านการฉีดสารกันบูด เพื่อช่วยยืดอายุของอาหารให้นานขึ้น แต่สารพวกนี้ก็ถือเป็นสารก่อมะเร็งด้วย นอกจากนี้ในเนื้อสัตว์ยังมีไขมันอิ่มตัวอยู่เยอะ เมื่อนำไปปรุงในอุณหภูมิที่ร้อนจัดสามารถทำให้เกิดสารก่อมะเร็งเอชซีเอ (Heterocyclic Amine – HCA) ซึ่งทำให้เป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ดังนั้นจึงควรทานเนื้อแดง เนื้อแปรรูปให้น้อยลง หันมาบริโภคเนื้อสัตว์สีขาวให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สารก่อมะเร็งต่าง ๆ ไปสะสมในร่างกาย

6. ส้มตำปูปลาร้า
รสจัดจ้านหอมอ่อนๆ ชวนน้ำลายสอ แต่เครื่องปรุงทั้งหลายสุ่มเสี่ยงสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ทั้งพริกแห้ง กระเทียมที่ขึ้นราง่าย รวมถึงปูเค็มและปลาร้า หากไม่ปรุงให้สุกอาจมีพยาธิใบไม้หรือไข่ของพยาธิที่สามารถมีชีวิตในร่างกายมนุษย์ เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งตับ ที่สำคัญยังพบด้วยว่าในปลาร้าอาจจะมีการใส่ดินประสิวเพื่อใช้ในการถนอมอาหาร ดินประสิวนี้จะมีสารไนโตรซามิน ซึ่งถือว่าเป็นสารก่อมะเร็งที่มีความรุนแรง ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะรับประทานปลาร้าดิบๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มอัตราความเสี่ยงที่จะได้รับสารดังกล่าว

7. อาหารที่ใส่สีผสมอาหาร
อาหารที่มีสีสันสดใส แม้จะดูน่าทาน แต่อาจแฝงโรคมะเร็งอยู่ก็เป็นได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วมักมีการเติมสีผสมอาหารลงไป ซึ่งเราไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่า สีสันนั้นมาจากสีผสมอาหารจริง ๆ หรือเป็นสีย้อมผ้าซึ่งพ่อค้าแม่ค้านิยมใช้ เพราะมีต้นทุนถูกกว่า โดยลืมนึกถึงอันตรายต่อสุขภาพของผู้ทาน ทำให้เราได้รับสารพิษต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัว และเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้

8. อาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อรา ยาฆ่าแมลง และสารพิษ
แน่นอนว่าการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อรา ยาฆ่าแมลง และสารพิษต้องเป็นโทษต่อร่างกายแน่ โดยเฉพาะในเมล็ดธัญพืช อย่างพวกถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง กระเทียม หอม และอาหารที่เก็บไว้นานเกินไป อย่างนมหรือขนมปัง เนื่องจากในอาหารประเภทนี้จะมีการปนเปื้อนของเชื้อราแอสเปอจิลลัส ฟลาวัส ซึ่งผลิตสารสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ที่เป็นอันตรายสูง เมื่อกินไปมากๆ จะไปสะสมที่ตับ
ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้เลย ที่สำคัญ สารพิษตัวนี้ทนความร้อนสูงถึง 260 องศาเซลเซียส ในขณะที่ความร้อนในการทำอาหารของเราอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสเท่านั้น ดังนั้นความร้อนจากการทำอาหารจึงไม่สามารถทำลายสารอะฟลาท็อกซินได้

9. อาหารหมักดอง
ขึ้นชื่อว่าหมักดองก็ย่อมแปลว่า ไม่ใช่อาหารสด ต้องผ่านกระบวนการ หรือใส่เคมีบางอย่างเพื่อให้อาหารนั้นมีอายุยาวนานเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีโซเดียมสูงมาก หากรับประทานบ่อยๆ เข้ามีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งตามมา

10. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ถึงแม้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ แต่ถ้าดื่มมากเกินไปย่อมไม่เกิดผลดีแน่ ๆ เพราะอาจเพิ่มโอกาสหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก รวมทั้งโรคมะเร็งที่หลายคนกลัวกัน โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกพบว่า
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านมได้ แต่หากใครจำเป็นต้องดื่มจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้เลือกดื่มไวน์จะดีกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ ซึ่งปริมาณที่เหมาะสมกับผู้หญิงคือวันละ 1 แก้ว ส่วนผู้ชายสามารถดื่มได้วันละ 2 แก้ว

ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงอาหารทั้ง 10 อย่างนี้แล้วจะห่างไกลจากมะเร็ง แต่เราควรต้องทานอาหารให้ครบหลักโภชนาการ ในปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันโรคมะเร็ง และโรคต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
บอกต่อเรื่องน่ารู้ ขอบคุณผู้สนับสนุน slotxo