เหตุผลที่ทำไมต้องไปเกาะรอก กระบี่
เหตุผลที่ทำไมต้องไปเกาะรอก กระบี่ ถือได้ว่าเป็นเจ้าของฉายาราชินีแห่งอันดามัน ด้วยธรรมชาติทั้งป่าเขาบนเกาะและธรรมชาติใต้ท้องทะเลยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีหาดทรายขาวสะอาดโดดเด่น น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส สามารถมองเห็นใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีแนวปะการังหลากสีสัน ที่นี่จึงกลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมสำหรับคนรักการดำน้ำ
อากาศร้อนแบบนี้จะมีอะไรดีกว่าการพาตัวไปที่ทะเลสวย ๆ ที่ไหนสักที่ เป็นอันรู้กันว่าช่วงเดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาทองของทะเลฝั่งอันดามัน เพราะปราศจากมรสุม คลื่นลมสงบ ทะเลแถบนี้จึงเหมาะเป็นที่เที่ยวหน้าร้อน แบบสุด ๆ แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักอีกหนึ่งเกาะสวยในท้องทะเลอันดามัน นั่นคือ เกาะรอก เกาะที่กำลังได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้หน้าร้อนนี้เราต้องพาตัวเองไปเกาะรอก เราจะหาเหตุผลไปด้วยกัน
เกาะรอกได้รับการประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เกาะรอกประกอบด้วย 2 เกาะคือ เกาะรอกใน และเกาะรอกนอก ด้านที่หันหน้าเข้าหากันเป็นหาดทราย คั่นด้วยร่องน้ำทะเลตื้นๆ ระยะห่างของ เกาะประมาณ 250 เมตร สำหรับคนที่ชอบเดินเล่นปล่อยอารมณ์ไปตามชายหาด ด้านหน้าของเกาะรอกนอก มีหาดทรายสีขาวละเอียด ทอดตัวยาวจากหัวเกาะ ถึงท้ายเกาะ ใครที่อยากกระโดดน้ำเล่นบริเวณนี้ก็สามารถทำได้
จุดเด่นของหมู่เกาะรอก คือแนวปะการังรอบเกาะและตามร่องน้ำ ส่วนใหญ่เป็นปะการังก้อน มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอาศัยอยู่ มากมาย บริเวณที่ลึกยังพบปะการังอ่อน แต่มีจำนวนไม่มากนัก เกาะรอกจึงเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น ปะการัง ด้านตะวันออกของเกาะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งปะการัง เขากวาง ปะการังสมอง ปะการังแผ่น ดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูน หลากสีสัน นอกจากนี้ยังมีรายงาน การพบ ฉลามวาฬบริเวณหินม่วง หินแดง น่านน้ำบริเวณรอบนอกของเกาะรอก อยู่บ่อยครั้ง
ทำให้นักดำน้ำใฝ่ฝันที่จะมาสัมผัสอย่างใกล้ชิด จุดดำน้ำที่สำคัญของเกาะรอกอยู่ที่ชายหาดด้านหน้าเกาะรอกนอกและบนเกาะรอกใน บริเวณ ร่องน้ำระหว่างเกาะยาวไปตลอดจนถึงทะเลหน้าหาดศาลเจ้า สองแห่งนี้เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม นอกจากนี้ใน ยามเย็นยังสามารถชมความงามของแสงสุดท้ายของวันได้ที่บริเวณอ่าวหาดหินงาม ส่วนภาพอาทิตย์ขึ้นนั้น เพียงคุณตื่นเช้าสักนิด ก็จะพบกับแสงแรกของวันที่บริเวณหน้าเต็นท์กันเลยทีเดียว

1.ความลับของเกาะรอก
เกาะรอก ประกอบด้วยทั้งหมด 2 เกาะ คือเกาะรอกในและเกาะรอกนอก ซึ่งสองเกาะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันระยะทางเพียง 250 เมตร โดยมีสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสองไว้ด้วยกัน หากแต่เกาะรอกยังมีอ่าวม่านไทร เป็นชายหาดเล็ก ๆ หาดเดียวบนเกาะรอก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปสำรวจเลาะหาดในช่วงน้ำลง เป็นพื้นที่ผสมป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าดงดิบ เรียกได้ว่าให้บรรยากาศของการผจญภัยไปได้อีกแบบหนึ่ง
2. จุดชมวิวอย่างสวยที่ผาเสม็ดแดง
นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากลองเปลี่ยนมุมมองในการชมวิวของเกาะรอก เราขอแนะนำให้คุณเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากหาดเกาะรอก เลียบเลาะชายฝั่งของอ่าวทะลุ ขึ้นไปบนเขาด้านทิศตะวันตกของเกาะรอก และใช้เวลาอีกประมาณ 20-30 นาที คุณก็จะมาถึง “จุดชมวิวผาเสม็ดแดง” บนนี้คุณจะมองเห็นแนวปะการังและร่องน้ำที่คั่นระหว่างเกาะรอกนอกและเกาะรอกในแบบชัดเจน
3. มาเกาะรอกถูกจังหวะฟินยิ่งกว่าถูกหวย
ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวเกาะรอกในช่วงปลายฤดูฝน ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมเป็นต้นไป ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ อยู่บริเวณแนวผาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะรอก ด้วยปริมาณน้ำที่สะสมจำนวนมากในช่วงหน้าฝน ก่อให้เกิดสายน้ำสีขาวทิ้งตัวลงมาจากผาสูง ลงสู่ท้องทะเลเบื้องล่าง กลายเป็น “น้ำตกเกาะรอก” (แต่ถ้าใครจะมาเที่ยวเกาะรอกช่วงหน้าฝนอาจต้องเพิ่ม ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงหน้ามรสุม)
4. ที่สุดของความสวย
ว่ากันว่าบรรยากาศบนเกาะรอกจัดว่าสวยไม่เป็นรองทะเลที่ไหนในเมืองไทย มีหาดทรายขาวดุจแป้ง น้ำทะเลที่ใสมาก (ใสจนมองเห็นแนวปะการังเรียงตัวเป็นแนวยาว) พื้นที่ทุกตารางนิ้วของเกาะรอกจึงเป็นที่สุดของความสวยงาม กลายเป็นเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในท้องทะเลอันดามัน
5. จุดดำน้ำสวย ๆ ของเกาะรอก
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทุกคนพลาดไม่ได้เมื่อมาเกาะรอก คือการดำน้ำชมปะการัง แน่นอนว่าโดยรอบเกาะรอกเต็มไปด้วยจุดดำน้ำตื้นและลึกหลายแห่งด้วยกัน โดยจุดดำน้ำตื้นจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าอ่าวม่านไทร และจุดดำน้ำลึกกองหินม่วง แต่ทั้งนี้การดำน้ำในแต่ละจุดของเกาะรอก อาจจำเป็นที่จะต้องดูสภาพคลื่นลมและระดับน้ำให้ดีเสียก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นจุดดำน้ำลึกหรือตื้น ก็รับรองความสวยเหมือนกันทุกจุด
6. เกาะรอกไปง่ายนิดเดียว
การเดินทางมาเที่ยวที่เกาะรอกทำได้ง่ายมาก ๆ สามารถเลือกเดินทางได้ทั้งจากจังหวัดตรังและกระบี่ แต่เราแนะนำให้มาจากตรังจะสะดวกที่สุด และง่ายกว่าเดินทางมาจากกระบี่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเหมาเรือจากท่าเรือปากเมงและท่าเรือบ้านหาดยาว ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงที่เกาะรอกแล้ว
7. เจอเจ้าถิ่นตัวจริงของเกาะรอก
นักท่องเที่ยวคนไหนที่มีโอกาสเที่ยวที่เกาะรอก เป็นต้องเกรงใจเจ้าถิ่นตัวจริงเสียงจริงของเกาะรอกกันเป็นแถบ ๆ แถมเจ้าถิ่นที่นี่ก็มีจำนวนไม่น้อยเสียด้วย ที่พูดนี่ไม่ใช่นักเลงกล้ามโตที่ไหนหรอกนะคะ หากแต่เป็น “ตัวเงินตัวทอง” ขนาดใหญ่ ยาวราว ๆ 1.5-2 เมตร ที่มักจะออกมาหากินช่วงรุ่งเช้าหรือย่ำค่ำ ที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลบทางให้พี่เขาด้วยกันทั้งนั้น
8. มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการ
เกาะรอกมีบ้านพักของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว (อาจต้องแย่งชิงคิวกันนิดหน่อย ไม่ก็ต้องรีบจองไว้ล่วงหน้า) แต่ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวมักจะเลือกเช่าเต็นท์ของทางอุทยาน หรือไม่ก็แบกเต็นท์ไปเองดีที่สุด จะได้นอนฟังเสียงคลื่นชัด ๆ ก็คราวนี้นี่แหละ
9. เที่ยวเกาะรอกได้อย่างอุ่นใจ
หากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากเล่นน้ำแบบไร้กังวล เราแนะนำให้คุณมาที่บริเวณชายหาดหน้าที่ทำการหน่วยพิทักษ์ อุทยานแห่งชาติที่ลต. 1 (เกาะรอก) ซึ่งเป็นจุดจอดเรือ เล่นน้ำ และดำน้ำ โดยอุทยานจะวางแนวทุ่นยาวจากจุดจอดเรือ นักท่องเที่ยวจึงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย ว่ากันว่าจุดนี้เป็นหาดที่สวยที่สุดบนเกาะรอกนอกอีกด้วยนะ

เเละที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นความประทับใจของนักท่องเที่ยวไทย เเละเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คงจะเป้นคำตอบ เเละยืนยันให้ทุกท่านทราบเเล้วว่าเกาะรอกเป็นท้องทะเลในความฝันของทุกคน เเละในเกาะรอก ทุกพื้นทีถือว่าเป็นพื้นที่ที่น่าไปลองสัมผัสมาก รักไทยต้องช่วยกันดันเศรษฐกิจ เเละพริกฟื้นสถานท่องเที่ยวไทยด้วยกันนะคะ
เรื่องราวประวัติศาตร์ที่เหลือเชื่อ นักโทษประหารคนที่ 2 ของไทยผู้ไม่ยอมตาย ถือได้ว่าเป็นประวัติศสาตร์ของไทย ในคดีของนางกิ่งแก้ว ประวัติการตามจับกุม นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน นักโทษประหารจากการก่อคดีลักพาตัวเด็กเรียกค้าไถ่ เมื่อถูกประหารแล้วก็เที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านแถวนั้นอยู่นาน
บทความน่าสนใจ : รวมร้านทำเล็บสุดเก๋ สำหรับสาวมีสไตล์