หลายคนที่อยากลดน้ำหนัก แล้วอยากจะออกกำลังกาย ก็จะต้องนึกถึงการวิ่ง ขึ้นมาเป็นอย่างแรกละสิ แต่การวิ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ เช่นต้องออกไปที่ส่วนสาธารณะ หรือจะต้องไปที่ฟิตเนส เพื่อจะได้วิ่งบนลู่วิ่ง แต่ใครจะรู้บ้างว่า การเผาพลาญที่ดีกว่าการไปวิ่งแบบนั้น โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มากๆ และสามารถทำได้ที่บ้านของคุณเลย นั่นคือ การกระโดดเชือก เพียงมีเชือกก็สามารถลดน้ำหนักได้ง่ายๆแล้ว วันนี้เราจึงมาพูดถึงการกระโดยเชือกกันว่า มันจะมีประโยชน์ยังไงบ้าง แล้วการกระโดดเชือกที่ถูกวิธีจะต้องทำอะไรบ้างค่ะ
ประโยชน์ของการกระโดดเชือก
- ช่วยเผาผลาญแคลอรี่และลดน้ำหนัก
การกระโดดเชือกสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการจ๊อกกิ้ง การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายรูปแบบอื่นเสียอีก การศึกษาพบว่าการกระโดดเชือก 1 ชั่วโมงจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 1,300 แคลอรี่และการกระโดดเชือก 10 นาทีจะเทียบเท่ากับการวิ่งระยะทาง 8 ไมล์ (หรือราว 12 กิโลเมตร) - ฝึกความอดทน
การกระโดดเชือก เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะพอสมควร ว่าจะกระโดดยังไงให้ไม่เหนื่อยเร็ว หรือวิธีการหายใจเข้าออก ให้ถูกจังหวะ เพื่อการสูบฉีดเลือดที่ดี ดังนั้นถ้ามีความอดทน และมุมานะ ในการออกกำลังกาย ผลดีย่อมตามมาแน่นอน - ลดอาการบาดเจ็บที่เท้า ข้อเท้า และขาท่อนล่าง
การกระโดดเชือกจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเจ็บเท้าและข้อเท้ารวมถึงดีต่อผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่เท้าหรือข้อเท้ามาก่อนหน้านี้ด้วย การกระโดดเชือกจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเท้ากับข้อเท้าให้แข็งแรงเนื่องจากมันจะบังคับให้คุณต้องลงน้ำหนักบริเวณหน้าเท้าแทนส้นเท้าและช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ นอกจากนี้การกระโดดเชือกยังช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของเท้าจึงเหมาะสำหรับผู้ที่เล่นกีฬาอย่างฟุตบอล บาสเก็ตบอล และเทนนิส - กล้ามเนื้อแข็งแรง
การกระโดดเชือกจะช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อแต่ก็แตกต่างจากการยกน้ำหนัก อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อของคุณจะกระชับขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อคุณกระโดดเชือกกล้ามเนื้อขาเกือบทุกส่วนจะทำงาน ขณะที่แขน ก็ต้องเหวี่ยงเชือก แผ่นหลังของคุณต้องตั้งตรง แม้แต่กล้ามเนื้อหน้าท้องก็ยังต้องเกร็งอีกด้วย - เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
ทุกครั้งที่คุณกระโดดและลงพื้น น้ำหนักจะลงไปที่กระดูกมากขึ้น คุณอาจคิดว่าไม่ดีเนื่องจากแรงกดลงไปที่ข้อต่อแต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น การออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักตัวจะดีต่อกระดูกและข้อต่อเนื่องจากการเจริญเติบโตของกระดูกนั้นไม่แตกต่างจากกล้ามเนื้อ ยิ่งคุณออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัวมากเท่าไหร่ กระดูกก็จะยิ่งมีมวลกระดูกมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นยิ่งคุณกระโดดเชือก กระดูกของคุณก็จะยิ่งหนาแน่นและแข็งแรง รวมถึงช่วยป้องกันโรคกระดูกเสื่อม เช่น โรคกระดูกพรุนได้ด้วย

- พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา
การออกกำลังกายนี้จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมือและตาเนื่องจากคุณต้องใช้มือในการเหวี่ยงเชือกและใช้ตามองเชือกไปด้วยขณะกระโดด..ยังไม่รวมถึงการกะจังหวะในการกระโดดให้แม่นยำอีกด้วย การกระโดดเชือกจะบังคับให้สมองประมวลการเคลื่อนไหวหลายอย่างและทำงานประสานกันอย่างกลมเกลียว ตอนแรกคุณอาจกระโดดเชือกไม่เก่งแต่ไม่นานคุณจะควบคุมจังหวะต่างๆได้อย่างรวดเร็ว - หลอกเลือดสูบฉีดดีขึ้น
การกระโดดเชือกช่วยเรื่องหลอดเลือดสูบฉีดได้ดีจริงๆ ยิ่งเราออกกำลังกาย ให้เลือดสูบฉีดมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการบริหารระบบการหายใจให้เป็นจังหวะมากขึ้น ออกซิเจนจะไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ดีกว่าปกติ และแน่นอนว่า ยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ในร่างกายของเราด้วย - สามารถทำได้ทุกที่
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่านี่เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากๆเลย คุณสามารถกระโดดเชือกได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ริมทางเดิน ในสนามหลังบ้าน หรือในสวนสาธารณะก็สามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถพกเชือกไปที่โรงยิมและกระโดดเล่นพร้อมกับเพื่อนๆได้อีกด้วย - คล่องแคล่ว ว่องไว และมีความสมดุล
การกระโดดเชือกจะทำให้คุณคล่องแคล่วว่องไวและทำให้คุณทรงตัวได้ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้รูปร่างของคุณก็จะดูดี มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง และอดทนยิ่งขึ้น - ขจัดสารพิษ
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการกระโดดเชือกคือมันจะช่วยขับสารพิษออกจากผิวหนังและร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองซึ่งเปรียบเหมือนระบบกำจัดของเสียภายในร่างกายมนุษย์ การกระโดดเชือกจะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง ตั้งแต่ต้นจรดปลาย จากนั้นสารพิษก็จะถูกขับออกจากระบบน้ำเหลืองของคุณ นอกจากนี้การกระโดดเชือกยังทำให้คุณเหงื่อออกซึ่งดีต่อผิวหนังเนื่องจากมันจะขับสารพิษและเชื้อแบคทีเรียออกไปทำให้ป้องกันการเกิดสิวและผิวพรรณมีสุขภาพดี - ลดความตึงเครียด
การกระโดดเชือกเป็นประจำจะทำให้คุณมีความสุข ผ่อนคลายความเครียด แถมยังต่อสู้กับโรควิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ด้วย เนื่องจากมีสารเคมีสำคัญ 2 ชนิดที่สมองจะหลั่งออกมาขณะออกกำลังกายได้แก่สารเซโรโทนินและสารเอนโดแคนนาบินอยด์ สารเซโรโทนินจะให้ความรู้สึกสนุกและมีความสุข ส่วนสารเอนโดแคนนาบินอยด์จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายและช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ดังนั้นผู้ที่กระโดดเชือกจะได้รับสารทั้งสองชนิดนี้อย่างแน่นอน - เพิ่มความสูง
เห็นเป็นการออกกำลังกายสนุก ๆ สำหรับเด็กอย่างนี้ แต่การกระโดดเชือกยังมีดีตรงที่ช่วยเพิ่มความสูงได้ด้วยนะจะบอกให้ เพราะการกระโดดเชือกจะบังคับสรีระของเราให้เหยียดตรง กล้ามเนื้อช่วงหลัง กลางลำตัว รวมทั้งกล้ามเนื้อขาก็จะยืดขยาย แต่ทั้งนี้เราก็ต้องเหยียดร่างกายตรงขณะที่กระโดดเชือกด้วยนะคะ และหากสามารถกระโดดเชือกเป็นประจำทุกวันสักประมาณ 15-20 นาทีต่อวัน แค่นี้ก็เหมือนช่วยเพิ่มความสูงให้ตัวเองได้ประมาณ 2-3 นิ้วแล้ว - ฉลาดขึ้น !
ดูไม่ค่อยน่าเชื่อว่าแค่กระโดดเชือกจะทำให้ฉลาดขึ้นได้ ทว่าข้อมูลนี้มีที่มาค่ะ โดยสถาบันการกระโดดเชือกแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่า การกระโดดเชือกจะช่วยพัฒนาสมองทั้งซีกซ้ายและขวา ซึ่งก็แปลว่าทักษะการเรียนรู้และจดจำ ทักษะการอ่าน ทักษะการทำความเข้าใจ ความจำ และการทำงานของสมองก็จะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังช่วยให้มีสมาธิมากขึ้นอีกต่างหาก
การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี
หลายคนคงเคยได้ยินวาทะกรรมที่กล่าวถึงการกระโดดเชือกในแง่ลบที่ว่า กระโดดมาก ๆ อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็ว จากแรงกระแทกที่สูงในขณะที่กระโดด แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว หากเรากระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ซึ่งศึกษาและวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในยุคปัจจุบัน แรงกระแทกที่เกิดขึ้นขณะกระโดด ถือว่าน้อยมาก ระดับที่เรียกได้ว่า การกระโดดเชือกนับเป็นการออกกำลังกาย ที่ก่อให้เกิดแรงกระแทกต่ำ (low impact exercise) เลยทีเดียว
การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี จะต้องกระโดดข้ามเชือก แค่ต่ำ ๆ สูงไม่เกิน 1-2 นิ้ว จากพื้น (คือแค่ให้ข้ามเชือก ไม่ต้องกระโดดสูงเกินความจำเป็น) รวมถึงการวางท่าทางขณะกระโดด จะต้องเปิดส้นเท้า ใช้ปลายเท้ารับน้ำหนักตัว และงอเข่าด้วยเล็กน้อยเสมอ
ด้วยท่าทางดังกล่าว เราจึงเสมือนกระโดดข้ามเชือกต่ำ ๆ ขึ้นลงอย่างนุ่มนวล โดยมีข้อเข่าและข้อเท้าเปรียบเสมือนสปริงโช้คอัพในรถยนต์ คอยรับแรงกระแทกอยู่ตลอดเวลา
เทคนิคอีกประการคือการแกว่งเชือก ท่ากระโดดที่ถูกต้อง ข้อศอกจะต้องแนบลำตัว และใช้เฉพาะข้อมือเท่านั้นในการหมุนให้เชือกแกว่งเป็นวงกลม โดยไม่ต้องกางแขนออกและใช้ท่อนแขนหรือหัวไหล่ช่วยหมุนเลย ซึ่งจะช่วยให้เชือกหมุนด้วยความราบเรียบต่อเนื่อง และสามารถควบคุมความเร็วในการหมุนเชือกให้สูง ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งท่าการกระโดดเชือกด้วยเทคนิคยุคปัจจุบันดังที่ว่านี้ จะแตกต่างจากท่ากระโดดเชือกที่เรากระโดดเล่นกันในตอนเด็ก ๆ อยู่มาก กล่าวคือ ในท่ากระโดดที่ผิด เรามักจะกระโดดสูง ๆ เพราะกลัวเชือกจะติดเท้า บางทีก็สะบัดปลายเท้าไปด้านหลังด้วย การแกว่งหมุนเชือกก็มักกางแขนออกกว้าง ๆ แล้วใช้แขน หรือหัวไหล่ หมุนเชือก
อีกประเด็นหนึ่งที่ห้ามลืมคือ ขณะกระโดดเชือก ต้องสวมรองเท้ากีฬาด้วยเสมอ เพื่อช่วยซับแรงกระแทก ไม่ควรกระโดดด้วยเท้าเปล่า หรือ รองเท้าแตะ อย่างเด็ดขาด

เคล็ดลับสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการเลือกซื้อเชือกมากระโดด เชือกที่ยาวเหมาะสม ที่ช่วยให้ฝึกกระโดดได้ง่าย เชือกไม่สะดุดบ่อยวัดได้โดย ยืนเหยียบกึ่งกลางเชือก ดึงปลายเชือกทั้งสองข้างขึ้นมาจนเชือกตึง ปลายด้ามจับต้องเสมอกับระดับรักแร้พอดี เวลาซื้อเชือก จึงต้องเลือกเส้นที่ยาว ๆ ไว้ก่อน เพราะสามารถนำมาปรับให้สั้นลงได้ ด้วยการมัดปมเชือก ด้านใกล้ด้ามจับ จนเชือกสั้นพอดีกับส่วนสูงของเราตามการวัดแบบที่อธิบายไปแล้ว หากเชือกที่ซื้อมาสั้นเกินไป ก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย

ควรเลือกเชือกกระโดดที่ทำจากพลาสติคเส้นเล็ก ๆ หรือเรียกว่า speed rope หรือไม่ก็เชือกแบบลูกปัด (beaded rope) แต่เชือกกระโดดแบบลูกปัดนี้ อาจหาซื้อได้ยาก ในบ้านเราไม่ค่อยเห็นมีขายทั่วไป แต่ถ้าในเมืองนอก จะเป็นที่นิยมมากไม่แพ้เชือก speed rope เลยทีเดียว
ใส่รองเท้ากีฬาด้วยเสมอ เนื่องจากเวลาลงน้ำหนัก จะใช้หน้าเท้าเป็นหลัก จึงควรใช้รองเท้าที่มีระบบรับแรงกระแทกตรงส่วนหน้าเท้ามาก ๆรองเท้าที่เหมาะสมจึงได้แก่ รองเท้าครอสเทรนนิ่ง รองเท้า indoor sport หรืออาจเป็นรองเท้าวิ่ง เป็นต้น
จับด้ามจับบริเวณกึ่งกลางถึงปลาย ๆ ด้าม โดยเน้นจับด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง คล้ายการจับกริปไม้แบดมินตัน (ยิ่งจับปลายด้าม ก็จะยิ่งเพิ่มแรงเหวี่ยงเชือก)
ข้อศอกแนบลำตัว ใช้เฉพาะข้อมือในการหมุนด้ามจับ ไม่ต้องใช้ท่อนแขนหรือหัวไหล่ช่วย โดยให้ข้อมืออยู่ห่างจากสะโพก ประมาณ 20-25 ซม. เยื้องไปด้านหน้าเล็กน้อย
กระโดดด้วยเท้าคู่ ให้ต่ำที่สุดเพียงเพื่อให้เชือกลอดผ่านไปได้ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว ด้วยความนุ่มนวล โดยให้จินตนาการว่า พื้นที่กระโดดเป็นพื้นชั้นสองของบ้านที่ทำจากกระจก ถ้ากระโดดสูงไป ลงน้ำหนักมากไป พื้นกระจกนี้ก็จะแตก และเราก็จะตกลงสู่ชั้นล่างต้องกระโดดให้ต่ำ ๆ เบา ๆ นิ่ม ๆ เพื่อไม่ให้กระจกแตก
ลงน้ำหนักตัวด้วยปลายเท้าส่วนจมูกเท้า ส้นเท้าต้องไม่แตะพื้นเลยเวลากระโดด โดยเปิดส้นเท้า และงอเข่าด้วยเล็กน้อย เพื่อช่วยลดแรงกระแทก
หากเมื่อกระโดดชำนาญแล้ว ให้ลองกระโดดแบบสลับเท้าดูบ้าง เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการกระโดด เพื่อเปลี่ยนการใช้งานของมัดกล้ามเนื้อขา
และคุณยังสามารถเสิร์ชหาวิธีการฝึกกระโดดเชือกได้มากมายตามช่องยูทูป จะเห็นว่า การกระโดดเชือก ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากทำให้ถูกวิธี ไม่เพียงแต่จะไม่ได้เป็นอันตรายกับข้อเข่าเราเหมือนกับที่เราเคยเชื่อกันมา ยังทำให้ร่างกายแทบทุกส่วนแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญไขมันหายไปแน่นอนค่ะ ถ้าหมั่นทำเป็นประจำ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Mercedes-Benz Maybach S-Class
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟังเพลงโมสาร์ท พัฒนาสมอง